สำนักกฎหมาย ธุรกิจเพื่อผดุงธรรมในสังคม
สำนักกฎหมาย ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน นับเป็นธุรกิจลำดับแรกตามสายงานอาชีพที่ท่านได้ร่ำเรียนมา ด้วยการก่อตั้งสำนักกฎหมายขึ้นเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๓ โดยตั้งอยู่ที่ตึกโอลิมเปีย ชั้น ๕ ถนนพระราม ๔ มีทนายความประจำสำนักงาน ๕ คน เจ้าหน้าที่ ๗ คน
ต่อมา สำนักกฎหมายของท่านได้ย้ายไปอยู่ที่ราชดำริอาเขต มีทนายความประจำสำนักงานเพิ่มขึ้นเป็น ๑๒ คน
“เดิมสำนักงานทนายความมักจะอยู่ตามห้องแถว ไม่เคยมีใครคิดที่จะกล้ามาอยู่อาคารสูง ๆ แบบฝรั่ง เขาบอกว่า สำนักงานทนายความไม่อยู่ห้องแถว ไม่ติดป้ายใครจะมารู้จัก แต่ผมกลับแนวคิดเสียใหม่ ขึ้นไปอยู่บนอาคารสูง ข้างล่างไม่มีป้ายสำนักงานกฎหมาย เพราะผมถือว่า สำนักงานกฎหมายเป็นอาชีพอิสระ ซึ่งต้องอาศัยเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความซื่อสัตย์ ไม่ใช่จะมาเดินเลือกป้ายชื่อ แล้วค่อยจ้างให้ว่าความ”
จากหนังสือภารกิจ…เพื่อชาติ ฉลองครบรอบ ๒๐ ปี
สำนักกฎหมาย ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน
หลังจากนั้น จำนวนทนายความและเจ้าหน้าที่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จุดเริ่มต้นของแนวคิดการสร้างสำนักงานที่สุขุมวิทซอย ๕ เพราะต้องการความสะดวกในการทำงานและต้องการขยายงาน
การเช่าอาคารของผู้อื่นทำเป็นสำนักงาน ซึ่งต้องประสบกับความไม่สะดวกนานาประการเช่น ความคับแคบของสถานที่ ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นทุกปี ที่จอดรถไม่พอเพียง และความไม่สะดวกในการใช้เครื่องปรับอากาศในเวลาหลังเลิกงาน ท่านจึงตัดสินใจสร้างสำนักงานบนที่ดินของตนเองในซอยสุขุมวิท ๕ บนพื้นที่ขนาด ๔๓๐ ตารางวา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑
วันเปิดสำนักกฎหมาย ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน สุขุมวิท ซอย ๕ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง,ทนายความและเจ้าหน้าที่
สำนักกฎหมาย ดร.อุุกฤษ มงคลนาวิน เป็นสำนักงานทนายความที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งในประเทศ เพราะอาคารสำนักงานมีรูปแบบคลาสสิคสไตล์ยุโรป ซึ่งท่านได้แบบอย่างมาจากฝรั่งเศสในฐานะที่เคยศึกษาเล่าเรียนมา ส่วนการตกแต่งภายในก็เน้นการประสานกันอย่างกลมกลืนระหว่างความสวยงามกับประโยชน์ใช้สอย ที่ตัวอาคารภายนอกได้ติดคติธรรมของสำนักงานไว้ว่า
นิติธรรม – หมายถึงบ้านเมืองต้องปกครองด้วยกฎหมาย
ยุติธรรม – หมายถึงต้องการรับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรม
สันติธรรม – หมายถึง บ้านเมืองจะมีสันติสุขเมื่อมีการปกครองโดยกฎหมาย และประชาชนได้รับความยุติธรรม
เนื่องจากท่านเป็นผู้เล็งเห็นการณ์ไกล จึงตัดสินใจซื้อที่ดินที่มีบริเวณติดกันไว้อีก ๒๓๐ ตารางวา เผื่อว่าต่อไปภายหน้าเมื่อสำนักงานกฎหมายต้องขยาย จะได้ไม่ต้องย้ายไปสถานที่อื่น และเมื่อเวลาผ่านไป ๑๐ ก็ถึงเวลาแห่งการขยายสำนักงาน
พิธีวางศิลาฤกษ์ สำนักกฎหมาย อาคารหลังที่ ๒ สูง ๕ ชั้น เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๑
