‘ในหลวง’ โปรดเกล้าฯ ให้ตุลาการศาล รธน.-จุฬาราชมนตรี เข้าเฝ้าฯ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นำตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และให้จุฬาราชมนตรี นำคณะ ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสเดือนรอมฎอน…
วานนี้ 27 พ.ค. 2558 เวลา 19.52 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายนุรักษ์ มาประณีต ประธานศาลรัฐธรรมนูญ นำ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ และในโอกาสนี้ นายปัญญา อุดชาชน เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วย
ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย นำคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้แทนชาวไทยมุสลิม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน และโอกาสครบ 50 ปี การเริ่มดำเนินการโครงการแปลพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย ซึ่งได้พระราชทานพระราชดำริ และพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับดำเนินการ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และความหมายภาษาไทย ฉบับพระราชทาน จำนวน 1 ชุด (6 เล่ม)
สำหรับโครงการแปลพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่า พระมหาคัมภีร์นี้นอกจากจะมีความสำคัญทางศาสนาอิสลามแล้ว ยังเป็นวรรณกรรมที่สำคัญของโลกอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งได้แปลเป็นภาษาต่างๆ อย่างแพร่หลาย โดยการแปลความหมายเป็นภาษาไทยด้วยนั้น จะช่วยให้ชาวไทยมุสลิมที่ไม่รู้ภาษาอาหรับ และประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถศึกษาคำสอนของศาสนาอิสลามได้ทั่วถึงแพร่หลายยิ่งขึ้น
ดังนั้น จึงมีพระราชกระแสให้ นายต่วน สุวรรณศาสน์ อดีตจุฬาราชมนตรี แปลและขยายความพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจากภาษาอาหรับโดยตรง พร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนในการจัดพิมพ์ ตั้งแต่พุทธศักราช 2507 การพิมพ์เผยแพร่ในระยะแรก นายต่วน สุวรรณศาสน์ ทยอยจัดพิมพ์พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานครั้งละส่วน เพื่อจะได้มีโอกาสตรวจชำระเนื้อความและขัดเกลาภาษา การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานพระมหาคัมภีร์ ฯ ฉบับภาษาไทย ซึ่งจัดทำเสร็จแล้วส่วนหนึ่ง แก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาสเป็นแห่งแรก ณ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พุทธศักราช 2512
จนกระทั่งในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม 2530 จึงจัดพิมพ์ฉบับรวมเล่มขึ้น ชื่อว่า “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และความหมายภาษาไทย ฉบับพระราชทาน” และนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพระราชทานแก่ห้องสมุด มัสยิด โรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม สมาคม มูลนิธิต่างๆ ต่อมา ได้พิมพ์เผยแพร่อีกเมื่อพุทธศักราช 2539 ในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติ ครบ 50 ปี และในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547
การนี้ โครงการดังกล่าวจัดพิมพ์พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ฉบับภาษาไทย เผยแพร่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และดำเนินการครบ 50 ปี เมื่อพุทธศักราช 2557 ปรากฏผลเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ชาวไทยมุสลิม ได้เข้าถึงคำสั่งสอนของท่านศาสดามูฮัมหมัดอย่างลึกซึ้ง สมตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.
“ในหลวง-ราชินี” พระราชทาน “พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน แปลจากอาหรับเป็นภาษาไทย
ปกอัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธย “ภ.ป.ร.” คู่พระนามาภิไธย “ส.ก.” ครั้งแรก
ให้ วธ.แจกประชาชน 3 จ.ชายแดนใต้
กระจายสู่มิสยิดกว่า1,000 แห่ง
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่โรงแรมรอยัลซิตี้ กรุงเทพฯ นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานเปิดประชุมสัมมนาเชิงนโยบาย วธ.ซึ่งมีผู้แทนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม และรับมอบ พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และความหมายภาษาไทย ฉบับพระราชทานจำนวน 5,000 ชุด ประมาณ 30,000 เล่ม จาก ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรมและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในสามจังหวัดชายแดนใต้ (กอยส.)
ศ.ดร.อุกฤษ กล่าวว่า หนังสือชุดดังกล่าวจะขอให้ทาง วธ.ร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรี แจกจ่ายไปยังคณะกรรมการจุฬาราชมนตรี สำนักจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการกลางอิสลาม 36 จังหวัดทั่วประเทศ มัสยิดกว่า 1,000 แห่ง รวมทั้งสถานทูตในต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศทางด้านอิสลาม เพื่อเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ให้แพร่หลายโดยเฉพาะหน้าปกพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ได้ขอพระราชทานพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร.คู่กับพระนามาภิไธย ส.ก.เป็นครั้งแรก ไม่มีที่ใหนได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างนี้มาก่อน
ศ.ดร.อุกฤษ กล่าวอีกว่า เนื้อหาพระมหาคัมภีร์อัลกรุอาน เป็นภาษาอาหรับ พร้อมคำแปลภาษาไทย ซึ่งการจัดพิมพ์พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับนี้ ถือเป็นที่ยอมรับ และเป็นฉบับพระราชทาน ที่สำคัญ คณะผู้จัดทำคัมภีร์ชุดดังกล่าวต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ เพราะที่ผ่านมาการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ยังไม่สำเร็จ เนื่องจากไม่ได้ยึดหลักการทำงานที่เป็นเอกภาพ ขาดความจริงใจ และมีประโยชน์ซ่อนเร้น สำหรับการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ รวมทั้งรัฐบาลที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ทุกครั้งที่เกิดความรุนแรง รัฐบาลมุ่งแต่เพิ่มกำลังทหาร งบประมาณ แต่ละเลยจะเข้าไปศึกษาปัญหาที่แท้จริงคนใต้ต้องการอะไร ซึ่งจากการลงพื้นที่ชาวจังหวัดชายแดนใต้ต้องการคืออาหาร อาชีพ การศึกษา และสุขอนามัย มากที่สุด
ด้าน ท่านผู้หญิงสมร ภูมิณรงค์ ประธานมูลนิธิ ต่วน สวรรณศาสน์ จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระอยู่หัว มีพระราชดำริที่จะให้คนไทยได้มีพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานฉบับที่เป็นภาษาของประเทศของตนเอง และต้องการให้ชาวไทยมุสลิม และผู้ที่สนใจได้นำข้อความที่เป็นบทสอนนั้น นำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯยังจังหวัดชายแดนภาคใต้ พระองค์ทรงเห็นความไม่เข้าใจในหลักคำสอนทางศาสนาของประชาชน จึงมีพระราชดำริให้จัดพิมพ์ พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน เพื่อพระราชทานให้แก่ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในหลักศาสนา รวมทั้งให้เกิดความสงบสันติขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาก ซึ่งจากการที่คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ปรองดองกันนั้น สาเหตุหนึ่งมาจากความไม่เข้าใจในเรื่องของศาสนาอย่างถ่องแท้ ดังนั้น พระคัมภีร์อัลกุรอานจะบรรจุคำสอนทางศาสนาไว้ทุกตอน หากว่าได้อ่านนำไปปฏิบัติจะได้อย่างถูกต้องจะนำความสงบสุขให้เกิดขึ้นได้อีกครั้ง” ท่านผู้หญิงสมร กล่าว
ด้าน นายธีระ สลักเพชร รมว.วธ.กล่าวว่า การได้รับมอบพระมหาคัมภร์อัลกุรอาน ฉบับพระราชทาน ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เป็นสิ่งที่คนไทยทั้งประเทศควรได้รับเรียนรู้ และเป็นสิ่งที่นำสันติกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และตนจะนำข่าวดีดังกล่าวไปรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบด้วย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
11 มิถุนายน 2552 17:00 น.